BLACK OCELOT -Chapter 0: Guest who-


ref. from spider-man; blackcat.

BLACK OCELOT
-Chapter 0: Guest who- 



วี้หวอ~

เสียงไซเรนรถตำรวจและเสียงบีบแตรดังไปทั่วบริเวณใจกลางกรุงโซล การจราจรในตอนกลางคืนยังคงคับคั่งราวกับเมืองนี้ไม่เคยหลับใหล รถตำรวจนับสิบคันไล่ตามรถมอเตอร์ไบค์คันสีดำเพียงคันเดียวกันให้จ้าละหวั่น เจ้าของร่างผอมเพรียวผู้ขับเคลื่อนพาหนะเป้าหมายยกยิ้มเยาะภายใต้หมวกกันน็อกใบใหญ่ - ไล่จับกันมากี่เดือนแล้วก็จับไม่เคยจะได้สักที เปลืองน้ำมันชะมัด

นี่ มินฮยอง...นายจะให้ฉันขี่เจ้านี่ไปถึงไหนเนี่ย จะอ้อมโลกอยู่แล้วนะ

ร่างบางบ่นกับคนปลายสายซึ่งมีฐานะเป็นผู้ช่วย ภายใต้หมวกกันน็อกที่ถูกทำขึ้นมาเป็นพิเศษมีระบบนำทางและระบบการสื่อสารซึ่งสั่งการด้วยเสียง ข้อมูลทั้งหมดจะแสดงอยู่บนชิลด์ของหมวกกันน็อก – มินฮยองเรียกมันว่าโล่ เอาเป็นว่าเรียกตามนี้ไปก็แล้วกันเพราะมันก็แปลว่าโล่จริงๆ

โธ่...คุณหนู รถตำรวจมาเป็นสิบแบบนี้จะไปใช้แผนเดิมได้ยังไงกันครับ เอาเป็นว่าคุณหนูไปตามทางที่ขึ้นโชว์อยู่บนโล่ก่อนนะครับ ผมกำลังหาทางที่ใกล้ที่สุดให้อยู่

อ้อมอีกแล้ว แล้วเมื่อไหร่ไอ้ตำรวจบ้านี่จะเลิกตามสักทีวะ ไปจับคนอื่นไป๊

อ้อ อีกอย่างเวลางานเราจะเรียกโค้ดเนมกันไงครับคุณหนู

นายก็เลิกเรียกฉันว่าคุณหนูก่อนสิมาร์ค

แหม...พอดีสถานการณ์มันกดดันเล็กน้อยครับคุณแบล็คโอเซลอต โอ๊ะ...ดูเหมือนว่าอีกสองร้อยเมตรข้างหน้าจะมีรถตำรวจจอดดักอยู่นะครับ

ฉันไม่ควรเลี้ยวหรอ

ไต่ขึ้นหลังคามันไปเลยครับ

เจ้าของฉายาแบล็คโอเซลอตหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะไปตามทางที่ผู้ช่วยบอกไว้ ดวงตากลมโตมองเห็นรถตำรวจสามคันจอดปิดทางอยู่ด้านหน้า แต่ในเมื่อไม่คิดจะจอดแล้วจะหยุดเร่งเครื่องทำไมล่ะ

หยุดรถเดี๋ยวนี้! นี่เป็นการเตือนจากพวกเรา ย้ำ! หยุดรถเดี๋ยวนี้!”

มาร์ค...พอผ่านตรงนี้ไปแล้วช่วยแฮ็ควิทยุให้หน่อยนะ มีอะไรอยากจะพูดนิดหน่อย

ได้ครับคุณนะ- เอ๊ย คุณแบล็คโอเซลอต หลังจากผ่านตรงนี้ไปแล้ว อีกห้าร้อยเมตรจะถึงจุดเปลี่ยนชุดกับรถครับ ณ ร้านรามยอนยี่สิบสี่ชั่วโมง

อ้อ หุ้นส่วนคนสำคัญ...เอาล่ะนะ นี่ต่างหากที่ถือว่าเป็นการเตือนข้อมือเล็กบิดสุดแรงก่อนที่รถมอเตอร์ไบค์คันใหญ่จะลอยขึ้นเหนือพื้นดินแล้วแล่นข้ามศีรษะของพวกตำรวจไปท่ามกลางความงุนงงและอัศจรรย์ใจ กว่าพวกนั้นจะตั้งตัวได้หัวขโมยตัวฉกาจก็บิดรถออกมาไกลพอสมควรแล้ว ริมฝีปากได้รูปกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างลำพองใจก่อนจะกรอกเสียงตัวเองลงไปหลังได้สัญญาณว่าแฮ็ควิทยุได้แล้ว
ไม่ต้องยกโขยงพากันมาจับฉันหรอก ฉันอยากเล่นกับแค่ผู้กองซอเท่านั้นแหละ

หัวขโมยตัวป่วนทิ้งเสียงหัวเราะแหลมปรี๊ดไว้เยาะเย้ยคนที่เพิ่งเอ่ยชื่อถึง ป่านนี้คงนั่งทุบพวกมาลัยอย่างเจ็บใจอยู่ในรถ น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นหน้าเหวอๆ ของผู้กองซอเมื่อครู่เพราะเป็นตำรวจคนละชุดกัน แต่ไม่เป็นไร...เอาไว้ดูคราวหน้าก็ได้

ครั้งนี้พาเพื่อนมารุมจับเยอะขนาดนี้ ครั้งหน้าคงต้องเอาคืนให้หนักซะแล้วล่ะ :)

.
.

หนีไปได้อีกแล้วครับผู้กอง!!!”

เออ! รู้แล้ว!” ลูกน้องที่นั่งมาด้วยกันผงะไปเล็กน้อยเพราะโดนตะคอกใส่ ไอ้เราก็แค่หวังดีอยากบอกให้ได้ยินชัดๆ ไม่น่าเลยกู

โดนผู้การเฉ่งกบาลอีกแน่นอนเลยครับคราวนี้ ของก็ไม่ได้คืน โจรก็ดันหนีไปได้

จะพูดซ้ำทำไมวะ!” หมวดคิมโดยองที่นั่งอยู่เบาะหน้าหันไปเอ็ดเพื่อนร่วมงานที่นั่งอยู่เบาะหลัง หมวดลีดงฮยอกยกมือขึ้นปิดปากก่อนจะยกมือขอโทษขอโพยแล้วบอกตัวเองว่าหลังจากนี้จะพยายามไม่พูดอะไรที่กระทบกระเทือนจิตใจผู้กอง

ฉันว่าผู้ช่วยยัยแมวผีนั่นต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ ดูสิ มันแฮ็ควิทยุรถได้เป็นสิบๆ คัน

ผมก็ว่าอย่างนั้นครับผู้กอง แต่ครั้งนี้เราจะทำยังไงกันดีครับ เล่นใหญ่พากันมาเกือบหมดกองปราบแบบนี้ เราจะหอบหน้ากลับไปไม่ให้โดนลงโทษหนักๆ ยังไงดีครับผู้กองหมวดลีพูดไปพลางทำหน้าเบะเหมือนอยากจะร้องไห้

ผู้กองหนุ่มถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่ก่อนจะตัดสินใจสตาร์ทรถ แล้วพูดกับลูกน้องโดยที่ทิ้งสายตาไว้นอกตัวรถ

ก็ตายแม่งกันหมดนี่แหละ

ผู้ก๊องงง!!!”

.
.


หลังจากพากันกลับมาที่กองปราบปราม ด่านแรกที่ต้องเจอก็คือสารวัตร...เรียกว่าโชคดีดีกว่าที่ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน ผู้การจึงกลับบ้านไปพักผ่อนแล้ว...แต่ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องเจออยู่ดี เผลอๆ อาจโทรมาด่าคืนนี้เลยด้วยซ้ำ

ผมรู้อยู่แล้วแหละว่ามันต้องเป็นแบบนี้...ผมก็ถามคุณแล้วนะผู้กองว่าจะเอาคนไปเยอะขนาดนี้เลยหรอ แล้วเป็นไง...คว้าน้ำเหลว

ผมเห็นว่าครั้งนี้เรามีโอกาสมากกว่าครั้งอื่นจึงขออนุญาตสารวัตรไปแบบนั้นครับ ครั้งนี้ถือว่าเป็นความผิดของผมคนเดียว สารวัตรจะลงโทษยังไงก็ได้ครับ

จะไปลงโทษอะไรได้ล่ะผู้กองซอ ก็มีคุณคนเดียวที่ยอมตามคดีนี้ ไอ้พวกนักธุรกิจนี่พอมีเงิน มีอำนาจเข้าหน่อยก็จิกอยู่ได้ อยากได้รูปคืนนักก็ไปหาเองสิวะ

ผมขอโทษครับที่ทำให้สารวัตรเดือดร้อนร่างสูงโค้งตัวขนานพื้นเพื่อแสดงถึงความจริงใจ ฝ่ายผู้ใหญ่ที่ยศสูงกว่าก็โบกมือไปมาพร้อมกับบอกว่าไม่เป็นไร ตัวเขาเองไม่ได้โกรธอะไรขนาดนั้น มันเป็นเรื่องธรรมดาของตำรวจกับโจรที่หนีเก่ง

แต่กับผู้การผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงเหมือนกันนะ ไว้คุยกันพรุ่งนี้เถอะ...ออกเวรแล้วก็กลับไปพักผ่อน พวกนายก็ด้วย

ขอบคุณครับ!” สองหมวดที่ยืนหน้าซีดอยู่นานก็ยกมือทำท่าทำความเคารพจนกระทั่งสารวัตรเดินออกจากห้องไป

สารวัตรสอนเรามากับมือไงถึงรู้ว่าเราเป็นคนยังไง ที่น่าห่วงก็คือผู้การมากกว่า พรุ่งนี้ผมลาป่วยนะ โอ๊ยๆ ท้องเดินๆหมวดลีพูดก่อนจะทำท่ากุมท้อง

ตายก็ตายด้วยกันดิวะ อ่อนหัดแบบนี้ มึงมาเป็นตำรวจได้ไงเนี่ยคิมโดยองตบหัวรุ่นน้องตำรวจ พวกเราค่อนข้างสนิทกันพอสมควรเพราะเรียนโรงเรียนตำรวจที่เดียวกันแต่คนละรุ่น ผู้กองซอเป็นรุ่นพี่หมวดคิมสองปี ส่วนหมวดคิมก็เป็นรุ่นพี่หมวดลีสองปี – อะแฮ่ม...จะว่าไปเด็กรุ่นหลังๆ นี่มันเก่งดีเนอะ

โหยพี่ ผู้การน่ากลัวจะตายห่า โดนเรียกไปทีไรผมนี่กลั้นหายใจจนเกือบตายทุกที

มึงอะเวอร์ไอ้ดงฮยอก...ไป แดกข้าว วันนี้กูเลี้ยงเองผู้กองซอยกยิ้มบางๆ ก่อนจะเสยกบาลรุ่นน้องเบาๆ แล้วใช้แขนเกี่ยวคอไว้

เกล๊าะ! ไหมผู้กอง

ไม่อะ กูจะเอารถกลับด้วย

โห งั้นเลี้ยงผมสักขวดสองขวดได้ไหม เดี๋ยวผมนั่งแท็กซี่กลับลีดงฮยอกทำหน้าอ้อนวอนแล้วทำเสียงเล็กเสียงน้อยในลำคอ ผู้กองตัวสูงพยักหน้าส่งๆ เพื่อตัดความรำคาญก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมไปด้วยกัน

.
.


ไปนอนเฝ้ามันเถอะมึงอะ ไหนบอกกูว่าขวดสองขวด ล่อไปหกผู้กองหนุ่มบ่นพึมพำหลังจากแบกร่างเพื่อนร่วมงานยัดเข้าไปในรถได้สำเร็จ เขาบอกให้คิมโดยองดูแลรุ่นน้องและคอยมองทางด้วยเพราะถึงแม้จะเมาแต่ก็ดูมีสัญชาตญาณการรับรู้มากกว่าหมวดลี

หลังจากจ่ายเงินและบอกทางให้แก่คนขับแล้ว ก็ถึงเวลาที่เขาจะกลับบ้านไปพักผ่อนบ้าง ผู้กองซอยองโฮอาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ ครอบครัวของเขาอยู่เมืองรอบนอก มาทำงานไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่จึงแยกออกมาอยู่ลำพัง

เพราะงานยุ่งนาน ๆ ทีจะได้กลับบ้านแต่พ่อกับแม่ก็แวะมาหาอยู่บ่อย ๆ ต้องขอบคุณพ่อกับแม่ที่ทำให้ตู้เย็นของเขามีอย่างอื่นนอกจากเบียร์ที่เรียงเป็นตับอยู่ข้างตู้

หื้ม...เด็กนักศึกษาข้างห้องมีแขก แต่ตีสองแล้วยังไม่กลับอีกหรอ

ผู้กองหนุ่มสงสัยอยู่ในใจเพราะเขาเหลือบไปเห็นรองเท้าคู่ที่ไม่คุ้นตาอยู่หน้าประตูห้องข้างๆ เขาก็เกลียดความขี้สงสัยในตัวเองเหมือนกัน ชอบสำรวจนู้นสำรวจนี่ไปเรื่อยแล้วคิดเองอยู่ในใจ เฮ้อ...ก็มันเป็นพื้นฐานของตำรวจนี่นะ

อ้าวผู้กอง...วันนี้มีเวรดึกหรอครับ

ร่างสูงสะดุ้ง เพราะมัวแต่ยืนคิดจึงไม่ได้กดรหัสเข้าห้องสักที ทันใดนั้นเด็กหนุ่มนักศึกษาผู้เป็นเจ้าของห้องข้างๆ ก็ออกมาพร้อมกับแขกที่น่าจะเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน

อ่าฮะ...ถามได้หรือเปล่าว่าจะออกไปไหนกัน

อ๋อ ผมแค่จะเดินไปส่งเพื่อนข้างล่างครับเด็กหนุ่มยิ้มรับก่อนจะตอบออกไป เขาเข้าใจว่าอีกฝ่ายถามเพราะเป็นห่วงตามประสาผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

แล้วทำไมไม่นอนด้วยกันไปเลย นี่ดึกแล้วนะ

เขามีธุระต้องทำแต่เช้าน่ะสิครับ ผมก็อยากให้เขาค้างอยู่หรอก

ดูเหมือนรถที่ฉันเรียกจะมาแล้วนะเด็กหนุ่มที่ตัวสูงกว่ามองออกไปนอกระเบียงก่อนจะหันมาบอกเพื่อน แล้วเด็กผู้ชายคนนั้นก็หันมายิ้มให้ผู้กองตัวสูงจนแก้มบุ๋มก่อนจะพูดบางอย่างก่อนกลับ

ผมขอตัวก่อนนะครับผู้กอง เอาไว้คราวหน้าถ้าเราได้เจอกันอีกผมจะมาแนะนำตัวนะครับ

อ่าฮะ...กลับดีๆ ล่ะร่างสูงอวยพรเล็กน้อยก่อนจะกดรหัสเข้าห้องหลังจากเด็กวัยรุ่นสองคนเดินหันหลังไปแล้ว

เด็กข้างห้องนั่นชื่ออะไรนะ...จำได้ว่านามสกุลลีเพราะนามสกุลเดียวกับไอ้ดงฮยอก ชื่อก็อะไรแทๆ สักอย่างมันติดอยู่ที่ปาก เรื่องของเรื่องก็คือเขาอยากจะเล่าให้ฟังว่าทั้งอาทิตย์นี้เพิ่งจะได้คุยกันเอง...ความจริงแล้วเป็นคนข้างห้องกันก็ไม่จำเป็นต้องคุยกันบ่อยใช่ไหมล่ะ แต่เรามักจะเจอกันเวลาออกไปเก็บผ้าที่ระเบียงเสมอก็เลยมีคุยกันบ้างสองสามประโยค

เหมือนจะย้ายมาอยู่ที่นี่ได้สี่ห้าเดือนแล้วมั้ง เห็นว่าเพิ่งเข้ามหาลัยปีแรกแต่จำไม่ได้ว่าเคยถามไปหรือเปล่าว่าเรียกคณะอะไรอยู่ แต่ท่าทางเนิร์ดๆ เก็บตัวเงียบ สงบเสงี่ยมแบบนั้นก็คงเรียกคณะวิทย์ล่ะมั้ง อ้อ...เขาเคยได้ยินหมอนั่นช่วยเพื่อนแก้โจทย์อะไรสักอย่าง ฟังๆ ดูแล้วก็น่าจะใช่แหละ

ก๊อกๆ

ใครมาเคาะตอนนี้วะ

ผู้กองหนุ่มเดินไปส่องตาแมวดูก่อนจะเห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มนักศึกษาข้างห้อง เขากำลังถอดเสื้อผ้าจะเข้าไปอาบน้ำอยู่แล้วเชียว เปิดประตูออกไปโดยที่ไม่ได้ใส่เสื้อก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ผู้ชายด้วยกัน

มีอะไรหรือเปล่า

...อ่า คือกางเกงในผู้กองหรือเปล่าครับเด็กหนุ่มขยับแว่นทรงสี่เหลี่ยมของตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกความมั่นใจก่อนจะยื่นแขนอีกข้างไปตรงหน้าแล้วเอ่ยถาม

เฮ้ย! ใช่!” ผู้กองหนุ่มคว้าไปอย่างรวดเร็ว...ที่อายนี่ไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นกางเกงในหรอก อายเพราะมันเป็นลายมิกกี้เมาส์โว้ย!

คือมันปลิวมาน่ะครับ ช่วงนี้ลมเริ่มพัดแรงอย่าตากผ้าสูงเกินไปนะครับ เมื่อวันก่อนผมเดินอยู่ข้างล่างก็มีกระโปรงใครไม่รู้โดนลมพัดตกลงไป

หมายความว่าคราวหน้าอาจจะเป็นกางเกงในกูสินะที่ตกลงไป

อ้อ...ขอบใจนะ นายมีอะไรอีกหรือเปล่า

อะ อ่อ...ไม่มีแล้วครับ เชิญผู้กองพักผ่อนเถอะครับ ขอโทษที่มารบกวนนะครับ

ไม่เป็นไร ขอบใจอีกที

เด็กหนุ่มพยักหน้ารับเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ประตูห้องจะถูกปิด เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนเพราะทำงานมาทั้งวัน โชคดีที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุดเขาจึงสามารถนอนยาวๆ ได้...หรือเปล่านะ เพราะร่างกายอันไม่รักดีของเขามันชอบตื่นตรงเวลาอยู่ตลอดเลยน่ะสิ


หวังว่าพรุ่งนี้คงไม่มีงานอะไรเข้ามากะทันหันหรอกนะ


-------------------------------------------
ตอนแรกก็คิดว่าจะลงบล็อกหรือเปิดบทความเรื่องสั้นในเด็กดีดี 
แต่คิดไปคิดมาก็ลงบล็อกละกัน อยากประเดิม
ให้กำลังใจกันได้โดยการคอมเมนต์ที่นี่หรือที่แท็ก #แบล็คโอเซลอต เด้อคับ

ความคิดเห็น