BLACK OCELOT Chapter 1: hit at him



BLACK OCELOT
-Chapter 1: hit at him-



ความจริงวันนี้ไม่ใช่วันหยุด...เขามีเข้าเวรเช้าแต่สถานการณ์เมื่อครู่มันบีบบังคับให้ผู้กองอย่างเขาต้องหาเหตุผลบางอย่างมาอ้างเพื่อไม่ไปทำงานที่สำนักงานกองปราบฯ ถ้าไม่ทำแบบนั้นร่างของเขาได้ถูกแยกเป็นชิ้นๆ ก่อนที่จะมีโอกาสได้จับยัยแมวขโมยนั่นแน่ ๆ

เมื่อเช้าสารวัตรโทรมาหาแต่เช้าว่าวันนี้ไม่ต้องเข้าไปที่กองปราบฯ พร้อมบอกเหตุผลว่ามีเรื่องที่ทำให้ผู้การอารมณ์ไม่ดี หลังจากนั้นก็เป็นอันรู้กันว่าเขาไม่ควรเข้าไปภายในวันสองวันนี้ เพราะถ้าเรื่องนั้นยังจัดการไม่ได้ ผู้การก็จะเอาอารมณ์ทุกอย่างมาลงที่เรื่องแบล็คโอเซลอต แล้วก็จะพากันซวยไปยกแผง

เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงต้องมาทำงานรองที่เคยรับเคสไว้ อย่างคอยจับตามองผู้ต้องสงสัยคดีต่าง ๆ ตามมุมถนน ไม่ก็สืบหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกแก๊งค้ายาที่ทำยังไงมันก็ไม่หมดไปสักที

 “อรุณสวัสดิ์ครับผู้กอง วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอครับร่างสูงหันไปตามเสียงทักทายที่คุ้นเคย เป็นเด็กนักศึกษาข้างห้องเขานั่นแหละที่ทักขึ้นระหว่างที่กำลังเดินมาทิ้งขยะใต้อะพาร์ตเมนต์

วันนี้มีงานนอก แล้วนายล่ะ...ไม่มีเรียนเหรอ

ครับ แต่ว่าก็ต้องทำรายงานส่งอยู่ดี ถ้าตอนดึกๆ ห้องผมเสียงดังผู้กองก็มาเตือนได้นะครับ วันนี้จะมีเพื่อนมาทำงานด้วยอีกสองสามคน

เห็นอยู่คนเดียวเงียบๆ มาตั้งนาน ก็มีคนคบเหมือนกันนี่นายน่ะ

อ้าว นี่ผู้กองเห็นผมเป็นคนแบบไหนเนี่ย

ตอนแรกดูเหมือนคนที่มนุษย์สัมพันธ์น่าเป็นห่วง แต่เห็นนายมีเพื่อนแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ คบเพื่อนก็ดูให้ดีด้วยนะ อย่าไปคบพวกขี้ยา

ผู้กองพูดเหมือนพ่อผมเลย 

นายว่าฉันแก่หรอ

ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ ก็แค่บอกว่าพูดเหมือนที่พ่อผมพูดเอง

แหย่เล่นหรอก อย่าคิดจริงจัง... ว่าแต่นายว่างไหม

ตอนนี้หรอครับ...ก็ว่างนะครับเด็กหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความสงสัยแต่เขาก็เลือกตอบไปตามความเป็นจริง

ดี งั้นช่วยอะไรฉันหน่อยสิ

อะไรครับ


.
.


ร่างบางเดินตามร่างสูงมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงร้านกาแฟริมทางร้านหนึ่ง ผู้คนไม่หนาตามาก ร้านตกแต่งเรียบหรูและมีสไตล์ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น...ผู้กองพาเขามาทำอะไรที่นี่กันแน่ คงไม่ใช่แค่ชวนมากินกาแฟเฉยๆ หรอก

นายอยากกินอะไรสั่งเลย เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง

ผู้กองต้องบอกผมก่อนว่าพาผมมาที่นี่ทำไมเด็กหนุ่มหันไปต่อรอง ส่วนคนโตกว่าก็เลิกคิ้วมองอย่างประหลาดใจ อาจะเป็นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เราได้คุยกันมากกว่าสามประโยคจึงทำให้เขาได้รู้จักเด็กข้างห้องมากขึ้นว่าหมอนี่ก็แอบดื้ออยู่เหมือนกัน

นายก็สั่งก่อนสิ แล้วพอเราไปนั่งที่โต๊ะแล้วฉันจะเล่าให้ฟัง

ผู้กองก็ได้เปรียบอยู่ดี

ที่นี่ห้ามเรียกฉันว่าผู้กองร่างสูงมองไปรอบ ๆ ตัวอย่างระมัดระวังก่อนจะก้มลงมากระซิบบอก

แล้วจะให้ผมเรียกผู้กอ-- คุณว่าอะไรดีล่ะครับ

เรียกว่าพี่ยองโฮ

“…นี่พาผมมาช่วยทำงานหรือครับ เด็กหนุ่มเหมือนจะรู้อะไรบางอย่างจึงถามออกไป ร่างสูงพยักเบาๆ แล้วจุดยิ้มบนใบหน้าแทนคำตอบ 

ถ้าคุณจำชื่อผมได้ผมก็จะยอมเรียก

ลี...แทยง

จำได้ด้วยหรอครับ ผมนึกว่าจำไม่ได้เสียอีก

ก็เกือบจำไม่ได้อยู่แต่พอดีเหลือบไปเห็นบัตรประชาชนของนายตอนเปิดกระเป๋าเงินเมื่อกี้

ตาไวจริง ๆ

แล้วหยิบเงินขึ้นมาทำไม ฉันบอกว่าจะเลี้ยงนายไง

ผมไม่ชอบติดหนี้ใคร

ฉันบอกว่าจะเลี้ยง ดื้อนะนายเนี่ยร่างสูงว่าก่อนจะผลักหัวเด็กหนุ่ม ร่างบางร้องออกมาเบาๆ เพราะเสียการทรงตัวก่อนจะหันไปสนใจพนักงานที่พูดขึ้นเพราะเห็นว่าพวกเขาไม่ยอมสั่งอะไรสักที

เอ่อ...ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจะรับเครื่องดื่มอะไรดีคะ

ผมเอาอเมริกาโน่เย็นครับ...สั่งเร็วแทยง

ผมเอาโกโก้ปั่นครับ

ค่ะ ชำระเงินเรียบร้อยแล้วกรุณานั่งรอสักครู่นะคะ

ทั้งสองผงกศรีษะเป็นการตอบรับเบาๆ ก่อนจะเดินไปหาโต๊ะนั่ง แทยงมองผู้ใหญ่ตรงหน้าอย่างคาดคั้นคำตอบ ในทีแรกยองโฮก็ยังไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจ้องเขาทำไมแต่พอเวลาผ่านไปผู้กองหนุ่มก็รับรู้ได้ว่าเขาควรตอบคำถามที่สัญญาไปเมื่อครู่ว่าจะตอบ

ฉันมาตามดูผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง แหล่งข่าวรายงานว่าเขาชอบมาที่คาเฟ่นี้บ่อย ๆ วันนี้ฉันว่างๆ ก็เลยเสี่ยงมาดู

แล้วผมเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ยครับ

เพื่อความเนียนไง ระหว่างที่รอเราก็มานั่งทำความรู้จักกันเถอะ อยู่ห้องข้างกันมาตั้งหลายเดือนแล้ว ยังไม่เคยคุยกันจริง ๆ จัง ๆ สักที

ผมไม่ได้อยากรู้อะไรเกี่ยวกับผู้กองสักหน่อย

นายควรเรียกฉันว่าพี่สิ

เฮ้อ...ครับพี่ยองโฮ

นายไม่ดื่มกาแฟหรอ เห็นนายสั่งโกโก้ไป

ครับ มันขมผมไม่ชอบ ผมชอบของหวานมากกว่า กินแล้วมันสดชื่นดี

ตรงกันข้ามกับฉันเลยแฮะ มันก็พอกินได้แหละไอ้พวกของหวานแต่ฉันว่ามันหวานจนเลี่ยนก็เลยไม่ค่อยชอบกิน

งั้นผู้ก- พี่ยองโฮก็คงไม่ชอบเรื่องโรแมนติกด้วยแน่ ๆ พี่ดูแข็งกระด้าง ยกความคิดตัวเป็นที่หนึ่ง แฟนก็ไม่น่าจะมี

นายกำลังทำตัวเป็นนักสืบอยู่เหรอ แต่ที่พูดมาก็ถูกหมด...ส่วนนาย ภายนอกก็ดูเป็นเด็กมหาลัยธรรมดาแต่ฉันเริ่มรู้สึกได้ว่านายมีบางอย่างที่แตกต่างออกไปจากที่ฉันคิด ดื้อเงียบและไม่ชอบให้ใครสั่ง แฟนก็ไม่น่าจะมีเหมือนกัน

เหรอ ผมไม่เห็นรู้สึกแบบนั้นเด็กหนุ่มยกมือดันแว่นเล็กน้อยก่อนจะหันไปสนใจพนักงานที่กำลังยกเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ ผู้กองหนุ่มเห็นแววตาเป็นประกายของแทยงแล้วก็หัวเราะในลำคอเล็กน้อย เชื่อแล้วว่าชอบของหวานจริง ๆ

นายตาวาวเกินไปแล้ว

ก็ผมชอบนี่นา เรื่องนี้ผมไม่ปฏิเสธ

...เป้าหมายฉันมาพอดีเลยแฮะ นายห้ามหันไปนะ ไม่ต้องไปสนใจอะไรทั้งนั้น ก็แค่คุยกับฉันไปเรื่อย ๆผู้กองหนุ่มยืดตัวขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าผู้ต้องสงสัยเดินเข้ามาในร้าน เขาเหลือบมองไปที่เคาน์เตอร์เพื่อคอยสังเกตการณ์ในขณะที่ขยับปากพูดกับแทยง

พี่ก็บอกอยู่เมื่อกี้ว่าผมไม่ชอบให้ใครมาสั่ง แต่พอดีว่าผมเป็นคนรู้กาลเทศะ คราวนี้จะยอมคุยกับคนที่ไม่ยอมมองหน้าคู่สนทนาก็ได้

นายชอบมองตาคนว่างั้น

คุยกับใครก็ต้องมองตาคนนั้นสิ

แต่ฉันมองแว่นตานายอยู่นะ อยากให้ฉันมองตานายก็ถอดแว่นสิ

เหอะๆ มุกหรือเปล่านะ ตลกจัง

นายก็กวนอารมณ์ใช้ได้อยู่นะ ถ้าได้เจอลูกน้องฉันคงจะเข้ากันได้ดี

แทยงไม่ตอบแต่เหยียดปากเป็นเส้นตรงก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นแทนการบอกว่า แล้วไง ผมไม่ได้อยากเจอสักหน่อย ใส่ร่างสูงก่อนจะเท้าคางแล้วก้มลงดูดโกโก้ปั่นในแก้ว ผู้กองหนุ่มแยกเขี้ยวใส่เด็กหนุ่มด้วยความหมั่นไส้ จริง ๆ เขาอยากผลักหัวเด็กนี้ด้วยซ้ำแต่เราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น กลับกันถ้าเป็นลูกน้องเขาแล้วมาทำแบบนี้ใส่คงมีมือถึงตีนถึงกันบ้าง

เพราะร่างสูงเอาแต่จดจ้องอยู่กับการสังเกตผู้ต้องสงสัยเลยไม่ได้เห็นว่าแทยงกำลังเลื่อนสายตาขึ้นมาสำรวจใบหน้าของเขาอยู่ สิ่งที่เด็กหนุ่มชอบที่สุดบนใบหน้าของผู้กองจอมกวนคนนี้เห็นทีคงจะเป็นริมฝีปากสวยได้รูปราวกับพระเจ้าบรรจงสร้าง นึกแล้วก็อิจฉาที่หน้าตัวเองไม่มีอะไรดีเลยสักนิด

ปากฉันสวยมากจนอยากจูบล่ะสิร่างบางสะดุ้งหลังโดนจับได้เนื่องจากมองอีกฝ่ายนานเกินไป เด็กหนุ่มทำหน้าเหยเกหลังจากนึกขึ้นได้ว่าผู้กองหนุ่มพูดอะไรไปก่อนหน้านี้

ยอมรับว่าปากผู้กองสวย แต่ผมไม่ได้มีความคิดทำนองนั้นหรอกนะ อย่าเข้าใจผิด...ก็แค่อิจฉาที่ผู้กองหน้าตาดี

ฉันว่านายก็หน้าตาพอใช้ได้นะ แต่พอฉันมองหน้านายแล้ว ฉันก็รำคาญไอ้ผมม้าเต่อโง่ๆ นี่ ตัดมาทำไม

ถ้ายาวมันก็จะเกยแว่นผมไง จริง ๆ ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันสั้นเท่านี้หรอก แต่คุณก็รู้ว่าร้านตัดผมน่ะมันเป็นยังไง

อ้อ...ก็พอเข้าใจในจุดนั้น แต่นายหลุดเรียกคุณอีกแล้วนะ วันนี้เรามาในบทบาทพี่น้อง ช่วยเล่นให้สมบทบาทหน่อยสิ อย่าให้ฉันเสียค่าโกโก้ปั่นไปฟรีๆ

อยากได้ขนาดนั้นก็ไปจ้างนักแสดงสิครับ

...เวร หมอนั่นหายไปไหนแล้ววะหันมาสนใจเด็กมหาลัยตรงหน้าแค่ครู่เดียว เป้าหมายที่เคยนั่งอยู่ใกล้ๆ เคาน์เตอร์ก็หายไปเสียแล้ว ไม่ใช่ว่าหมอนั่นรู้ตัวแล้วหรอกนะ

เขารู้ตัวแล้วหรือเปล่าผู้กอง อธิบายลักษณะมาหน่อยสิ ผมหันไปมองข้างนอกบ่อยผมอาจจะมองเห็นเขาก็ได้

ผู้ชายผมซอยสั้นติดหนังหัว อายุประมาณสามสิบต้นๆ สูงเกือบร้อยแปดสิบได้ ใส่โค้ทสีดำตัวยาว...

...ถือโทรศัพท์เคสสีแดง

ใช่! นายเห็นเขาเหรอ

เขาเดินออกไปตอนที่คุณหันมาคุยกับผมแน่ ๆ เรารีบตามไปเถอะ ตอนนี้น่าจะยังไปทัน

เฮ้ เราไม่ได้เล่นไล่จับผู้ร้ายอยู่นะเด็กน้อย นายรออยู่ที่นี่แหละไม่ก็กลับห้องไปก่อน เดี๋ยวฉันจะไปตามหาเขาเอง

ผมมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิดก็แล้วกัน คุณไปซ้ายนะ เดี๋ยวผมไปขวาเอง

เฮ้! นายเป็นคนไม่ชอบให้คนอื่นสั่งจริง ๆ ด้วยสินะ เยี่ยมเลย!” ผู้กองหนุ่มส่งเสียงเรียกไว้แต่ดันช้ากว่าคนตัวเล็กที่เวลาปกติดูทำอะไรเชื่องช้าแต่คราวนี้ดันวิ่งออกไปนอกร้านไวกว่าเขาเสียอีก

แล้วนี่ทำไมเขาถึงวิ่งออกมาทางซ้ายตามที่เด็กนั่นบอกด้วยวะ

เออ ช่างแม่งเหอะ...เอาเป็นว่าตอนนี้เขาต้องหาผู้ต้องสงสัยคนนั้นให้เจอแล้วจับมาสอบปากคำให้ได้ก่อนก็พอ

ด้านเด็กหนุ่มที่วิ่งออกมาก่อนนั้น ความจริงแล้วเขารู้ว่าผู้ต้องสงสัยคนนั้นกำลังจะเดินทางไปที่ไหน ด้วยความที่เขาเป็นคนตาไวในระดับหนึ่งจึงเห็นว่าหน้าจอมือถือนั้นมีรูปบางรูปปรากฏอยู่ แทยงเห็นแค่เพียงเสี้ยวหนึ่งของหน้าจอเท่านั้น และเขาก็เห็นป้ายร้านอาหารกับชื่อร้านบางส่วน แต่พอลองนึกดูดี ๆ แล้ว ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ถือกุญแจรถไว้ มันเป็นคงเป็นร้านที่อยู่แถวนี้และสามารถเดินไปได้ ดังนั้นร่างบางเลยลองเดาดูว่าร้านที่เขากำลังจะไปนั้นมันถูกต้องหรือไม่ ถ้าใช่ค่อยหาทางติดต่อผู้กองอีกที

เดี๋ยว...แต่เราไม่มีเบอร์ติดต่อกันนี่!

ไม่น่ามาคนเดียวเลยจริง ๆ

เด็กหนุ่มตีอกชกหัวตัวเองก่อนจะร้องตกใจออกมาเพราะไม่ได้มองทางแล้วไปชนกับใครบางคนเข้า ร่างบางรีบขอโทษขอโพยก่อนผละตัวออก แต่ด้วยจังหวะที่รวดเร็วราวกับฟ้าผ่าจู่ ๆ ร่างของแทยงก็ถูกกระชากเข้าไปในซอกตึกก่อนจะถูกปิดปากไม่ให้มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาได้

ด้วยความที่ไม่รู้ว่าใครทำ และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้แทยงหอบใจแรงด้วยความกลัว แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าคนที่กระชากเขาเข้ามาอยู่ในซอกตึกนี้คือผู้กองตัวยักษ์ที่อาศัยอยู่ข้างห้องของเขาเอง!

โอ๊ย! นายเตะทำไมเนี่ยร่างสูงร้องออกมาแล้วผละตัวออกไปจากร่างบางพลางนั่งกุมหน้าแข้ง ใจจริงอยากจะเตะซ้ำอีกทีโทษฐานที่ทำให้เขาตกใจกลัว แต่นึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้ก็ใส่แรงไปเยอะอยู่ ผู้กองน่าจะเจ็บพอตัว

ก็ผู้กองทำผมตกใจนี่ จู่ ๆ ก็โดนใครไม่รู้มาปิดปากแล้วลากเข้ามาในนี้อะ ใคร ๆ เขาก็นึกว่าโจรกันทั้งนั้นแหละ

ขอโทษด้วยแล้วกันที่ทำนายให้ตกใจ แต่ผู้ต้องสงสัยมันหันมาทางนี้พอดีฉันก็เลยต้องดึงนายเข้ามาหลบในนี้

แล้วคุณรู้ได้ไงว่าเขาจะมาทางนี้

ฉันต้องถามนายมากกว่าว่านายรู้ได้ไงว่าเขาจะมาทางนี้ ดูเหมือนนายจะรู้ด้วยว่าเขาจะไปที่ร้านนั้น

ผมก็เดินตามเขามาน่ะสิ บังเอิญเห็นแวบๆ เมื่อกี้เลย

งั้นเหรอ

ผมไม่ได้เก่งแบบคุณนะที่ตามมาถูก ผมก็แค่เชื่อสัญชาตญาณตัวเอง แล้วนี่ผู้กองจะเข้าไปจับเขาเลยไหม ผมอยากเห็นอะ

อ้อ ที่แท้ก็เพราะแบบนี้นี่เอง นายจะเห็นเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องสนุกไม่ได้นะ ขืนเข้าไปใกล้กว่านี้แล้วหมอนั่นดันมือปืนล่ะ นายไม่ได้กลับไปเห็นหน้าพ่อแม่นายแน่ ๆ

“...ผมไม่มีให้เห็นอยู่แล้วล่ะบรรยากาศเปลี่ยนไปทันทีหลังจากเด็กหนุ่มพูดจบ ผู้กองหนุ่มเพิ่งรู้ตัวว่าเขาดันไปพูดจี้จุดเด็กมันเข้าจนอีกฝ่ายก้มหน้ามองพื้นเพื่อเลี่ยงไม่ให้เขาเห็นความเสียใจที่อาจสะท้อนออกมาจากดวงตากลมโตคู่นั้น ร่างสูงกระแอมออกมาเบาๆ ก่อนจะชวนเปลี่ยนเรื่อง

ไปหาอะไรกินในร้านนั้นไหม นายกินข้าวเช้ารึยัง

ยังครับ แต่ไม่เป็นไรครับ เมื่อกี้ผู้กองเลี้ยงน้ำผมแล้ว ไม่ต้องเลี้ยงข้าวผมหรอก

ใครบอกว่าฉันจะเลี้ยง มื้อนี้นายจ่ายเอง

อ้าว...

ปัง!

เสียงดังสะนั่นทำให้เด็กหนุ่มตกใจจนตัวโยนแล้วทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นโดยยกมือขึ้นปิดหูทั้งสองข้างไว้แน่น แทยงรู้ดีว่านี่คือเสียงปืน...เขาอยากก้าวออกจากที่นี่เพื่อไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เขาไม่สามารถยันตัวลุกขึ้นได้ แทยงกลัวว่าสิ่งที่เขาคิดมันจะเป็นจริงขึ้นมา เขารู้ทั้งรู้ว่าผู้ต้องสงสัยคนนั้นพกปืนมาด้วยแต่เขาไม่ได้บอกผู้กอง... คิดว่าตัวเองอาจจะมองผิดไปเอง แต่ก็มารู้ตัวในตอนที่สายไปว่าเขาคิดอะไรตื้นเกินไปอีกแล้ว

แทยง! นายเป็นอะไรหรือเปล่า!” ผู้กองหนุ่มเห็นเด็กข้างห้องนิ่งไปจึงย่อตัวลงแล้วเขย่าร่างกายเด็กหนุ่มเพื่อเรียกสติ และเหมือนแทยงจะเพิ่งเรียกสติตัวเองได้จึงลากสายตากลับมามองคนตัวสูงแล้วสั่นศีรษะบอกว่าเขาไม่เป็นอะไร

ผะ...ผู้กองรีบไปดูตรงนั้นเถอะครับ ผมดูแลตัวเองได้

เอาโทรศัพท์ฉันไป นายกดเลขหนึ่งเลยนะแล้วบอกให้เขาตาม GPS มา แล้วก็อยู่ตรงนี้ ห้ามไปไหน

คะ...ครับร่างสูงรีบออกไปดูที่เกิดเหตุหลังจากเห็นว่าเด็กหนุ่มประคองสติตัวเองได้แล้ว แทยงรีบกดโทรออกตามที่อีกฝ่ายบอกก่อนจะกรอกเสียงลงไปเมื่อมีคนรับ

มีเหตุฉุกเฉินครับ ช่วยตาม GPS มาด้วยนะครับ!”

[เอ่อ...นี่โทรศัพท์ของผู้กองซอใช่ไหมครับ]

ครับ! คือเรื่องมันค่อนข้างยาวนิดหน่อย แต่ผู้กองซอสั่งให้ผมโทรหาคุณครับ ช่วยรีบมาด้วยนะครับ!”

[ครับ! ผมจะรีบตามไปครับ!]

หลังจากวางสายแล้ว แทยงก็เดินออกจากซอกตึกแล้วตรงไปยังที่เกิดเหตุทันที ร่างบางกวาดตามองไปรอบ ๆ เพื่อหาผู้กองตัวสูงซึ่งต่อให้คนมุงดูเยอะแค่ไหนก็หาตัวได้ไม่ยาก พลันสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนทำท่าทางลับๆ ล่อๆ อยู่ไม่ไกลนัก ดวงตากลมโตกวาดไปทั่วเพื่อสำรวจก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อโค้ท

ทุกคนหมอบ!”

เด็กหนุ่มตะโกนบอกก่อนจะวิ่งตรงเข้าไปหาผู้ชายคนนั้นแล้วจัดการล็อกแขนอีกฝ่ายไพล่หลังได้ในเวลาอันรวดเร็ว สิ่งที่ผู้ชายคนนี้กำลังจะหยิบออกมาคือปืนตามที่ตัวเองได้คาดการไว้ เด็กหนุ่มใช้เท้าเขี่ยปืนออกไปให้พ้นทางก่อนจะดันตัวคนร้ายให้คุกเข่าลงกับพื้น ด้านตำรวจหนุ่มที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแต่เขาอยู่ห่างจากตรงนี้พอสมควรจึงมาช้าไปเล็กน้อย แต่เขาก็อดทึ่งไม่ได้ที่เด็กผู้ชายตัวผอมกะหร่องจะจัดการชายฉกรรจ์ที่รูปร่างห่างกันลิบลับขนาดนี้

ฉันจะใส่กุญแจมือเขาไว้ก่อน นายก็เฝ้าเขาไว้จนกว่าลูกน้องฉันจะมาถึงก็แล้วกัน ฉันขอเข้าไปดูข้างในต่ออีกแปบนึงร่างสูงจัดการใส่กุญแจมือคนร้ายก่อนจะเก็บปืนกระบอกนั้นมาไว้กับตัวแล้วหันไปบอกเด็กหนุ่ม

เดี๋ยวครับ! แล้วมีใครได้รับบาดเจ็บไหมครับ

ไม่...ผู้ชายคนนั้นยิงตัวเองตาย

วะ...ว่าไงนะครับ

ตามนั้น นายคงไม่อยากเห็นสภาพศพหรอก อยู่นี่แหละ

เด็กหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ คนร้าย ว่ากันตามจริงแล้วผู้ชายคนนี้ยังไม่ใช่คนร้ายโดยสมบูรณ์ เรียกเขาว่าผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีน่าจะเข้าท่ากว่า จริง ๆ เขาจะหนีตอนนี้ยังได้เพราะแค่โดนใส่กุญแจมือ ขาก็ยังวิ่งได้ ส่วนเด็กอย่างเขาคงทำอะไรไม่ได้ถ้าหากอีกฝ่ายคิดจะหนีจริง ๆ ที่เข้ามาล็อกตัวไว้ได้ก็เพราะอาศัยจังหวะเผลอต่างหาก

คุณตั้งใจยิงใคร

“…หน้าตานายดูไม่เหมือนตำรวจนะ ฉันจะตอบก็ต่อเมื่อตำรวจถามเท่านั้น

คุณดูเหมือนโดนใครบางคนบังคับมา ผมเห็นนะว่ามือคุณสั่นแถมหน้าตาคุณก็ดูเหมือนไม่เต็มใจที่จะหยิบมันออกมาด้วย ถ้าคุณตั้งใจจะยิงใครสักคนจริง ๆ คุณคงไม่ลังเลแบบนั้น

...ฉันพูดกับนายได้เหรอเขาหันมองซ้ายขวาราวกับกำลังดูว่ามีใครจับตามองพวกเราอยู่หรือเปล่า หลังจากมั่นใจแล้วว่าเขาสามารถพูดตรงนี้ได้ ชายคนนั้นก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ก่อนจะกระซิบถาม

ได้แน่นอน ถ้าคุณให้การอะไรที่เป็นประโยชน์แก่คดีคุณอาจจะไม่โดนจับเข้าคุกก็ได้

“…นายพูดถูก ฉันไม่ได้ตั้งใจทำ แต่มีคนบังคับฉันมา เขาเอาเรื่องงานและครอบครัวของฉันมาขู่ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะยิงเขา

แล้วคุณตั้งใจจะยิงใคร

ก็นายตำรวจคนนั้นไงล่ะ

คุณหมายถึง...คนที่ใส่กุญแจมือคุณงั้นหรือ

ก็มีเขาเป็นตำรวจอยู่คนเดียวนี่ รู้ไหม...ถ้าฉันไม่ตายตอนนี้ ยังไงเร็วๆ นี้ฉันก็ต้องตายอยู่ดี เพราะฉะนั้นช่วยปกป้องครอบครัวของฉันด้วย บอกเขาให้ปกป้องครอบครัวของฉัน

คุณบอกผมได้ไหมว่าใครสั่งคุณมา

ใครสักคนที่มีอิทธิพลมาก แต่กลับกลัวตำรวจยศผู้กองอย่างเขา...ผมใบ้ให้อีกนิดเล็กน้อยว่าเป็นคนที่เขากำลังตามสืบเพื่อสาวตัวไปถึงอยู่ ผมรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงกลัว เพราะผู้กองคนนั้น...อ๊าก!!!”

คุณ!!!”

เด็กหนุ่มตกใจก่อนจะเข้าไปประคองอีกฝ่าย ชายคนนั้นดิ้นไปดิ้นมาและกรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมาน แต่เพียงไม่กี่อึดใจเขาก็สงบนิ่งลงพร้อมกับลมหายใจที่ถูกลิดรอนไปจนเกือบหมด

ฝาก...ครอบครัว...ผมด้วยนั่นคือคำสั่งเสียสุดท้ายก่อนที่เขาจะหมดลมหายใจ แทยงไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน เขาไม่รู้เลยว่าการตกอยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิตผู้อื่นนั้นควรทำตัวอย่างไร เด็กหนุ่มประคองร่างไร้ลมหายใจไว้อย่างนั้นจนกระทั่งบางอย่างเรียกความสนใจจากเขาให้คืนสติกลับมา

แทยงเห็นรอยไหม้บางอย่างจากต้นคอด้านหลัง เด็กหนุ่มพิจารณาก่อนจะเห็นว่ามันเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดเล็กเท่าไมโครซิมการ์ดและมีสายเล็ก ๆ คล้ายส่วนประกอบในสายไฟโผล่ออกมาจากผิวหนัง หลังจากนั้นร่างบางจึงเงี่ยหูฟังรอบ ๆ ตัวก่อนจะได้ยินว่ามีคนกำลังโทรตามตำรวจและเรียกรถพยาบาลอยู่ เขาจึงใช้จังหวะนี้ดึงบางสิ่งออกมาจากหลังคอของผู้ตายและเก็บใส่กระเป๋าเสื้อตัวเอง

เกิดอะไรขึ้น!”

ผะ...ผมไม่รู้ครับ ผมชวนเขาคุยไปเรื่อย แล้วจู่ๆ เขาก็ชักแล้วก็ไม่หายใจไปเลยครับผู้กองยองโฮที่ได้ยินเสียงเอะอะด้านนอกก็รีบออกมาดูก่อนจะพบว่าผู้ต้องสงสัยรายใหม่กลายเป็นศพไปอีกหนึ่งราย แต่ที่น่าแปลกใจคือเด็กคนนี้ดูไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่นักกับการที่มีคนตายต่อหน้า คนปกติจะต้องร้องออกมาเพื่อให้คนอื่นเข้ามาช่วยดูแล้วแต่เด็กนี่กลับประคองร่างๆ นี้เอาไว้เฉยๆ

แต่เขาต้องพักเรื่องนี้ไว้ก่อน ยังไงก็ต้องได้สอบปากคำกันอยู่แล้วเพราะมีแค่แทยงเท่านั้นที่ได้คุยบางอย่างกับผู้ตาย

ผู้กอง! ผมมาแล้วครับ!”

มาได้สักทีนะพวกมึง นู้นพาฝ่ายชันสูตรไปตรงนู้นคนนึง รายนั้นฆ่าตัวตาย ส่วนรายนี้ยังไม่ทราบสาเหตุ

มีคนตายถึงสองคนเลยหรอครับ นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย

ยังสรุปไม่ได้สักอย่าง ดูเหมือนจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันด้วย ฉันไม่เคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้มาก่อน อาจจะก่อเหตุครั้งแรก

“…แล้วนี่ใครครับเนี่ย อย่าบอกนะว่านี่คือคนที่ผู้กองให้โทรไปหาผม

เออ คนนี้แหละ...อยู่ข้างห้องฉันเอง เป็นนักศึกษาชื่อลีแทยง ส่วนนี่หมวดคิมโดยอง แล้วไอ้ดงฮยอกไปไหนเพราะไม่มีช่องให้แทรกพวกเขาจึงทำได้แค่พยักหน้าให้กันเบาๆ ก่อนที่ผู้หมวดคิมจะหันไปตอบหัวหน้า

ติดอีกคดีนึงอยู่ครับ ว่าแต่นักศึกษาคุณอยากไปโรงพยาบาลไหม ผมว่าคุณควรได้รับการตรวจสักหน่อยเพราะมีคนเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาคุณเลย

...ก็ดีครับ ฝากตัวด้วยนะครับผู้หมวด

ฉันไม่น่าพานายมาด้วยเลย ขอโทษจริง ๆ

ไม่เป็นไรครับผู้กอง เรื่องแบบนี้เราห้ามให้มันไม่เกิดไม่ได้นี่ครับ ไม่อย่างนั้นเขาจะเรียกว่าอุบัติเหตุหรือครับ

น้องเขาก็พูดถูกนะครับผู้กอง

ไปดูตรงนู้นไปผู้กองหนุ่มผลักหัวรุ่นน้องเป็นการไล่ก่อนจะหันมาถามแทยงหลังจากที่หมวดคิมเดิมออกไปแล้ว

นายคุยอะไรกับผู้ตาย

นี่แหละครับที่ผมกำลังจะบอกผู้กองอยู่พอดี

เรื่องอะไรผู้กองยองโฮดึงตัวเด็กหนุ่มออกมาให้ห่างไกลผู้คน เพราะดูจากสีหน้าแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ค่อยอยากให้ใครรู้นัก

คุณคือเป้าหมายของผู้ชายคนนั้น เขาตั้งใจจะยิงคุณ

ยิงฉัน?

ครับ ผมคิดว่าเขาไม่น่าเกี่ยวข้องอะไรกับคนที่ยิงตัวตายในร้าน เขาบอกกับผมว่ามีคนสั่งเขาให้มายิงคุณโดยเอาครอบครัวเขามาขู่ เขาขอให้คุณช่วยปกป้องครอบครัวของเขาด้วย ผมว่าคุณช่วยรีบตามให้หน่อยก็ดีนะครับ ผมรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ กลัวว่ามันจะไม่ทัน

แล้วเขาบอกเรื่องคนที่สั่งการมาไหม

เขาบอกว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่คุณกำลังจะสาวตัวไปถึง มีอิทธิพลแต่กลับกลัวผู้กองอย่างคุณ เขาบอกผมมาว่าแบบนี้ครับ

...นายทำให้เขายอมคุยกับนายได้ยังไง

ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมก็แค่เห็นว่าเขาเหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง เลยลองกระตุ้นดู แล้วเขาก็ยอมเล่าให้ผมฟัง

ฉันเริ่มคิดว่านายน่ากลัวแล้วนะ...หรือว่านายเรียนพวกจิตวิทยา

ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังนะครับแต่ผมเรียนวิศวะคอมฯ แต่ว่าก็สนใจเรื่องการอ่านใจคนอยู่เหมือนกัน และผมคิดว่าตอนนี้คุณคงมีคนที่สงสัยอยู่ในใจแล้ว

เรียนจบแล้วสอบตำรวจได้เลยนะ กองปราบต้องการคนฉลาดแบบนายอยู่

ฮ่ะๆๆ เผอิญว่าผมไม่ค่อยชอบงานสายนี้สักเท่าไหร่น่ะสิครับ ผมชอบอยู่กับเทคโนโลยีมากกว่า ถ้าให้ผมเป็นแฮกเกอร์ผมก็พอทำได้อยู่นะ

นั่นไม่ใช่อาชีพที่ดีนัก แต่ตำรวจก็ต้องการแฮกเกอร์ฝีมือดีเหมือนกัน เอาล่ะ...ฉันว่าฉันต้องไปดูที่เกิดเหตุต่ออีกสักหน่อย ถ้ารถพยาบาลมาแล้วนายก็ไปพร้อมกับคนที่ได้รับผลกระทบอีกสองสามคนเลยนะ ส่วนเรื่องการไปให้ปากคำฉันจะบอกนายอีกที

ผมไม่ได้อยู่ห้องตลอดเวลาหรอกนะครับ

อ้อ...กดเบอร์นายใส่โทรศัพท์ฉันไว้เลย แล้วเมมไว้ว่าเด็กข้างห้อง

ชื่อผมแย่ชะมัด คุณไม่คิดจะเมมชื่อจริงผมเลยหรือไง

ตอนนี้ฉันจำได้แล้วว่านายชื่อลีแทยง จะเมมอะไรมันก็ไม่สำคัญหรอก เร็วเข้าสิ...ฉันต้องรีบไป

ครับๆ ได้แล้วครับแทยงตอบรับเสียงยานก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนให้เจ้าของ ผู้กองหนุ่มบอกลาส่งท้ายก่อนจะวิ่งเหยาะๆ กลับเข้าไปในร้านอาหาร ส่วนแทยงเองก็แสร้งทำเป็นเดินไปแถวๆ รถพยาบาลก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาโดยอาศัยการแทรกตัวไปกับฝูงชน

ร่างบางเดินมาเรื่อย ๆ ก่อนจะสำรวจรอบตัวว่าบริเวณนี้ไม่มีใครอยู่นอกจากเขาจึงยกโทรศัพท์ขึ้น กดโทรหาเบอร์ที่คุ้นเคยแล้วกรอกเสียงลงไปเมื่อปลายสายเอ่ยทักทาย

มินฮยอง ช่วยอะไรฉันหน่อยสิ

[คุณหนู...ปกติเราจะปล้นกันอาทิตย์ละครั้งนะครับ]

ไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นสิ ฉันหมายถึงเรื่องอื่น แต่เออ...ก็เกี่ยวมั้ง

[งั้นคุณหนูมาที่บ้านได้เลยครับ คุณท่านไม่อยู่...ไปสัมมนาต่างประเทศครับ]

ดี ฉันก็ไม่อยากเจอเขาเหมือนกัน

[ว่าแต่คุณหนูจะให้ผมทำอะไรครับ ผมจะได้เตรียมตัวรอไว้ก่อน]

ภารกิจช่วยชีวิตคน

[หา...คุณหนูเนี่ยนะ]

ฉันมันทำไมฮะมินฮยอง ฉันจะช่วยใครไม่ได้หรือไง

[ผมกำลังจะบอกว่าคุณหนูเนี่ยนะ...จิตใจดีที่หนึ่งเลยครับ]

แก้ไม่ทันแล้วล่ะ เอาเป็นว่านายเปิดโทรทัศน์ไว้ก็แล้วกัน มันต้องมีออกข่าวสักช่องแหละ คนตายถึงสองคนแบบนี้

[หา! นี่อย่าบอกนะว่าคุณหนู...]

นี่ ช่วยมองฉันในแง่ดีหน่อยได้ไหมคุณมินฮยอง หน้าอย่างฉันจะไปฆ่าแกงใครได้

[ครับ คุณหนูก็แค่ขี่มอไซค์ป่วนเมืองไปวันๆ]

โอ๊ย ไม่อยากคุยกับนายแล้วโว้ย เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันเข้าไปที่บ้าน แค่นี้นะ

[แฮะๆ ครับผมๆ]

ร่างบางกดวางสายก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า ผู้มีอิทธิพลคนไหนกันที่จะมากลัวนายตำรวจยศผู้กอง ก็ยอมรับแหละว่าหมอนั่นเก่งพอตัว...ถึงจะจับเขาไม่เคยได้ แต่เรื่องอื่นไอ้ผู้กองกวนโอ๊ยนั่นไม่เคยพลาด หรือแท้จริงแล้วซอยองโฮเป็นอะไรที่มากกว่าตำรวจ?

ไม่หรอก...ถ้าเป็นงั้นจริงก็ต้องจับฉันได้แล้วสิ...แบล็คโอเซลอตน่ะ :)


//////////////
เธอมันร้ายยัยคุณหนู
#แบล็คโอเซลอต 



ความคิดเห็น